กองทัพเรือที่ประชาชนเชื่อมั่นและภาคภูมิใจ                                       กองทัพเรือที่ประชาชนเชื่อมั่นและภาคภูมิใจ                                         กองทัพเรือที่ประชาชนเชื่อมั่นและภาคภูมิใจ

โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ รัชกาลที่ ๙ “โครงการตำรวจจราจรในพระราชดำริ”

Release Date : 20-09-2021 00:00:00
โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ รัชกาลที่ ๙ “โครงการตำรวจจราจรในพระราชดำริ”

“…แก้ปัญหาจราจรด้วยหน่วยเคลื่อนที่เร็ว โดยให้จัดหารถจักรยานยนต์แก่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ทำหน้าที่เป็นรถนำขบวนให้แก่ประชาชน เพื่อแก้ปัญหาจราจรในชั่วโมงเร่งด่วน…” 

              พระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

 

จุดเริ่มต้นของโครงการนี้เกิดจากพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงห่วงใยพสกนิกรที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาการจราจรในเขตกรุงเทพมหานคร จึงทรงมีพระราชดำริที่จะแก้ไขปัญหาให้ทุเลาลงด้วยการพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ จำนวน ๘ ล้านบาท ให้กรมตำรวจ (ในขณะนั้น) นำไปซื้อรถจักรยานยนต์เป็น "หน่วยเคลื่อนที่เร็ว" ทำหน้าที่ "สายตรวจจราจร" รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการซื้อวิทยุสื่อสาร ค่าเบี้ยเลี้ยง ฯลฯ ในการนี้พระองค์ได้พระราชทานแนวทางการปฏิบัติในโครงการนี้  ๕ ประการ คือ

๑. แสวงหาแนวทางให้ผู้ใช้รถใช้ถนน เคารพกฎจราจร และมีมารยาท

๒. ใช้รถจักรยานยนต์ เป็นหน่วยเคลื่อนที่เร็วแก้ปัญหาจุดที่รถติด เสมือน "รถนำขบวน" โดยรถจักรยานยนต์จะเข้าไปแก้ไขปัญหาทำให้ขบวนรถเคลื่อนที่ไปได้

๓. ใช้รถจักรยานยนต์ดูแลการจราจรบนถนน ให้รถเคลื่อนตัวไปได้เรื่อย ๆ ตามความเหมาะสม

๔. ถนนที่เป็น "คอขวด" ให้รถจักรยานยนต์เข้าไปแก้ไขให้เคลื่อนตัวได้เรื่อย ๆ เสมือนเทน้ำออกจากขวด

๕. ให้ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาการจราจร

 

โครงการนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี ๒๕๓๖ โดย พล.ต.อ.สวัสดิ์ อมรวิวัฒน์ อธิบดีกรมตำรวจ และ พล.ต.ท.จำลอง เอี่ยมแจ้งพันธุ์ ผบช.น. (ทั้งหมดคือยศและตำแหน่งในขณะนั้น) สนองพระราชดำริทันที โดยการนำเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) จำนวน ๑๕๐ นาย เข้ารับการอบรมความรู้เพิ่มเติมด้านการจราจรตามแนวพระราชดำริ รวมทั้งการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและการประชาสัมพันธ์

กระทั่งวันที่ ๖ กันยายน ๒๕๓๖ กรมตำรวจ (ในขณะนั้น) ได้ทำพิธีปล่อยแถวตำรวจจราจรตามโครงการพระราชดำริออกปฏิบัติหน้าที่เป็นครั้งแรกบนถนนพหลโยธินและวิภาวดีรังสิต โดยใช้รถจักรยานยนต์ที่มีอยู่จัดเป็นกองร้อยพิเศษเคลื่อนที่เร็ว และใช้กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) ถ.ศรีอยุธยา (ปัจจุบัน บช.น. ย้ายมาตั้งอยู่ที่วังปารุสกวัน) เป็นสถานที่ตั้งโครงการ จากนั้นมีการขยายผลการปฏิบัติออกไปยัง ถ.พญาไท ถึงสี่แยกปทุมวัน ถ.พระราม ๑ ถึงสี่แยกราชประสงค์ ถ.ราชดำริถึงสี่แยกประตูน้ำ ถ.ราชปรารภถึงสามแยกดินแดง และ ถ.ราชดำเนิน-สะพานพระปิ่นเกล้าไปจนถึงหน้า สน.ตลิ่งชัน แต่ด้วยสภาพปัญหาการจราจรใน กทม. ที่มักมี  น้ำท่วมขังหลังฝนตก ทำให้เครื่องยนต์ขัดข้อง รถยนต์วิ่งไม่ได้ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพล  อดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จึงพระราชทานทรัพย์เพิ่มอีก ๑ ล้านบาท ให้กองบังคับการตำรวจดับเพลิง(บก.ดพ.) นำไปซื้อรถยนต์และเครื่องสูบน้ำขนาดเล็กเป็นหน่วยเคลื่อนที่เร็ว เพื่อสูบน้ำท่วมขังตามจุดต่าง ๆ

กระทั่งวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๓๗ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ  ให้ พล.อ.เทียนชัย จั่นมุกดา รองสมุหราชองครักษ์ นำพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ จำนวน ๑๐ ล้านบาท ไปมอบให้เพิ่มเติม โดยอนุมัติแต่งตั้ง พล.ต.ท.จำลอง เอี่ยมแจ้งพันธุ์ เป็นผู้อำนวยการโครงการพระราชดำริ นอกจากนี้ ยังพระราชทานรถจักรยานยนต์อีก ๑๐ คัน และคูปองน้ำมันอีก ๑ ล้านบาท เพื่อใช้เป็นหน่วยเคลื่อนที่เร็วช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทุกกรณี ตลอดจนนำหญิงใกล้คลอดส่งโรงพยาบาลโดยเร่งด่วน

กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ในฐานะผู้รับสนองพระราชดำริ ได้จัด "สายตรวจจราจร" ปฏิบัติหน้าที่ตามโครงการ และเพื่อให้การปฏิบัติตามแนวพระราชดำริมีความเหมาะสม และมีเอกภาพในการ  บังคับบัญชา จึงอนุมัติให้จัดตั้งกองกำกับการฝ่ายปฏิบัติการจราจรขึ้นตรงกับกองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) ภายหลังมีการปรับโครงสร้างใหม่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงเปลี่ยนชื่อมาเป็น กก.๖ (ปฏิบัติการพิเศษ จราจร) บก.จร. โดยมีอัตรากำลังพล ๓๒๙ นาย มีรถยนต์ ๑๑ คัน รถจักรยานยนต์ ๒๑๑ คัน

ตำรวจจราจรในพระราชดำริได้รับการฝึกอบรมในเรื่องการทำคลอดฉุกเฉิน การปฐมพยาบาลเบื้องต้นและการซ่อมรถเบื้องต้น เพื่อให้บริการประชาชนในสถานการณ์ที่ฉุกเฉิน ไม่สามารถรับความช่วยเหลือทางอื่นใดได้ โดยที่ผ่านมา ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริปฏิบัติหน้าที่และทำการช่วยเหลือทั้งทำคลอด และนำหญิงใกล้คลอดส่งโรงพยาบาล การนำผู้ป่วยหรือผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล รวมถึงการช่วยเหลือเกี่ยวกับรถยนต์อีกหลายครั้ง 

 

การทำงานของตำรวจจราจรในโครงการพระราชดำริ แบ่งเป็น ๓ โซน ได้แก่  

๑. โซนเหนือ ได้แก่พื้นที่ ดินแดง มะกะสัน พญาไท เพชรบุรี แยกพระรามเก้า และรามคำแหง มีเจ้าหน้าที่ตำรวจช่างประจำอยู่  ๗ นาย 

๒. โซนใต้ ได้แก่พื้นที่ ถนนพระราม ๑ และถนนพระราม ๔ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจช่างประจำอยู่ ๔ นาย

๓. โซนฝั่งธนบุรี ได้แก่พื้นที่ แยกบางพลัด ถนนสิรินธร ถนนบรมราชชนนี มีเจ้าหน้าที่ตำรวจช่างประจำอยู่ ๔ นาย  

 

 

ช่องทางติดต่อ  : สายด่วนบก. ๐๒ หมายเลข ๑๑๙๗ หรือเบอร์โทรของโครงการ หมายเลข ๐๒-๓๕๔-๖๓๒๔  

                     ตำรวจจราจรในพระราชดำริ

 

แหล่งที่มา : https://www.porpeang.org/content/6162/โครงการตำรวจจราจรในพระราชดำริ