กองทัพเรือที่ประชาชนเชื่อมั่นและภาคภูมิใจ                                       กองทัพเรือที่ประชาชนเชื่อมั่นและภาคภูมิใจ                                         กองทัพเรือที่ประชาชนเชื่อมั่นและภาคภูมิใจ

โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ รัชกาลที่ ๑๐ “ซำตมขาว”

Release Date : 12-07-2021 00:00:00
โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ รัชกาลที่ ๑๐ “ซำตมขาว”

น้ำพระราชหฤทัย ร.๑๐ โครงการอ่างเก็บน้ำ ‘ซำตมขาว’

 

เป็นหมู่บ้านที่ ‘กันดารที่สุด’ ในจังหวัดอุดรธานี การเดินทางเข้าถึงยากลำบาก ไม่มีน้ำประปาใช้ กระทั่งแหล่งน้ำจากธรรมชาติก็แห้งแล้ง จนไม่สามารถเพาะปลูกอะไรได้เป็นชิ้นเป็นอัน บางคนท้อใจต้องออกจากหมู่บ้านไปหาทำงานในเมือง อีกหลายคนยังรักและขอปักหลักพื้นที่บ้านเกิด ราษฎรเหล่านั้นจึงรวมตัวกันเขียนจดหมายทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา ขอความช่วยเหลือขึ้นไป ท่ามกลางการรอคอยของราษฎรบ้านห้วยหมากหล่ำ หมู่ ๖ ต.ทมนางาม อ.โนนสะอาด จ.อุดรธานี ได้นำมาสู่วันประวัติศาสตร์ของหมู่บ้าน

จากน้ำพระราชหฤทัยทรงห่วงความเป็นอยู่ของประชาชน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับโครงการอ่างเก็บน้ำ “ซำตมขาว” พร้อมระบบส่งน้ำ บ้านห้วยหมากหล่ำ ไว้ในเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เมื่อวันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๖๐ ก่อนจะมีการริเริ่มโครงการก่อสร้างในเดือนตุลาคม ๒๕๖๐ และแล้วเสร็จเมื่อวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๑

มูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ ได้พาคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่ไปติดตามความคืบหน้าการใช้ประโยชน์ โครงการอ่างเก็บน้ำซำตมขาวพร้อมระบบส่งน้ำ บ้านห้วยหมากหล่ำ จ.อุดรธานี

 

                              โครงการอ่างเก็บน้ำซำตมขาวพร้อมระบบส่งน้ำ บ้านห้วยหมากหล่ำ

 

 

‘น้ำแล้ง’ จนตัดสินใจทูลเกล้าฯถวายฎีกา

นายเภา ยาท้าว ผู้ใหญ่บ้านบ้านห้วยหมากหล่ำ หมู่ ๖ เล่าว่า บ้านห้วยหมากหล่ำ หมู่ ๖ อยู่ในพื้นที่เชิงเขาและที่ราบแคบ ๆ สลับลูกเนิน มีร่องน้ำซำตมขาวไหลผ่านหมู่บ้าน แต่ปริมาณน้ำก็ยังไม่เพียงพอสำหรับการอุปโภคบริโภคและทำการเกษตรมา ๒-๓ ปี หลังที่หมู่บ้านประสบความแห้งแล้งมาก จากสภาพป่าเสื่อมโทรมทำให้ฝนตกไม่ตรงตามฤดูกาล และแม้ฝนตกมาก็ไม่มีพื้นที่รองรับน้ำ ชาวบ้านจึงต้องซื้อน้ำจากข้างนอกมาอุปโภคบริโภค น้ำปริมาณ ๑,๐๐๐ ลิตร มีราคา ๑๔๐ บาท ใช้ได้เพียงไม่กี่วัน ทั้งที่ชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพเก็บของป่าและเลี้ยงสัตว์ และมีฐานะยากจน

จากความเดือดร้อนนี้ชาวบ้านได้รวมตัวกันทูลเกล้าฯถวายฎีกา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และนับเป็น  พระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ เพราะวันนี้ ชาวบ้านมีน้ำใช้แล้ว

จากอ่างเก็บน้ำทำนบดิน ความจุ ๒๐๔,๑๐๐ ลูกบาศก์เมตร ใช้งบประมาณก่อสร้างทั้งสิ้น ๔๖ ล้านบาท 

และด้วยเป็นโครงการพระราชดำริแห่งใหม่ ทำให้ภาคส่วนต่าง ๆ เข้ามายังหมู่บ้านแห่งนี้เพื่อพัฒนา ตั้งแต่การสร้างถนนเข้าหมู่บ้าน ซึ่งอยู่ระหว่างเตรียมการ รวมถึงการจัดตั้งโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ปัจจุบันเปิดการเรียนการสอนระดับอนุบาลถึงประถม ๖ ในห้องเรียนชั่วคราวแล้ว ตลอดจนส่งเสริมองค์ความรู้ วัตถุดิบ และอุปกรณ์ในการทำเกษตรอินทรีย์ เกษตรผสมผสาน ปศุสัตว์ ฯลฯ

ผมยังจำวันที่ได้เปิดอ่านจดหมายจากสำนักราชเลขาธิการว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำริให้สร้างอ่างเก็บน้ำขึ้นที่หมู่บ้านแห่งนี้

“ตอนนั้นทุกคนดีใจมาก ต่างปรบมือ ร้องไห้ ด้วยความหวังว่าจากนี้เราจะมีน้ำไว้ใช้ทำการเกษตร เลี้ยงสัตว์ เพราะต่างคิดว่าเมื่อมีน้ำก็มีแรงทำมาหากิน ชีวิตคงจะดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ ด้วยพระเมตตาต่อราษฎรนี้ ได้ทำให้ชาวชุมชนที่เคยออกไปทำงานข้างนอก ทยอยกลับมาอยู่ถิ่นฐานเดิมมากขึ้น จาก ๓๐ ครัวเรือนก่อนมีอ่างเก็บน้ำ ตอนนี้เพิ่มขึ้นเป็น ๗๐ ครัวเรือนแล้ว” นายเภากล่าว

                   

                            นายเภา ยาท้าว ผู้ใหญ่บ้านบ้านห้วยหมากหล่ำ หมู่ ๖

 

                 

                                   บ่อน้ำเล็ก ๆ ของหมู่บ้าน

 

                 

                                    รถขนน้ำเข้าหมู่บ้าน

 

                   

                                   ท่อส่งน้ำใต้ดินเข้ามายังหมู่บ้าน

 

 

สร้างอ่างเก็บน้ำ - อาชีพครั้งแรกของกรมชลฯ

ปัจจุบันอ่างเก็บน้ำซำตมขาวมีปริมาณน้ำในอ่างเพียงร้อยละ ๒๕ น้ำในอ่างยังมีพันธุ์ปลาน้ำจืด อาทิ ปลาบึก ปลาตะเพียน ประกระแห จำนวน ๕ แสนตัว กรมชลประทานนำมาปล่อยก่อนหน้านี้

ชาวบ้านจึงประชุมและพร้อมใจจะยังไม่ใช้น้ำ เพื่อรักษาพันธุ์ปลาจนกว่าฤดูฝนปีนี้จะมาเติมเต็มน้ำ   ในอ่าง ระหว่างรอคอยใช้น้ำอย่างมีความหวัง กรมชลประทานได้ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) จัดสรรพื้นที่ส่วนกลาง จำนวน ๘ ไร่ แบ่งให้ชาวหมู่บ้านครัวเรือนเท่า ๆ กันละ ๗๐ ตารางวา เพื่อให้ชาวบ้านได้ลงมือทำการเกษตร

นายราเชน ศิลปะรายะ ผู้อำนวยการโครงการก่อสร้าง สำนักงานชลประทานที่ ๕ กล่าวว่า โครงการอ่างเก็บน้ำซำตมขาว ถือเป็นโครงการแรกของกรมชลประทาน ที่มีการสร้างอ่างเก็บน้ำ สร้างระบบส่งน้ำใต้ดินไปยังหมู่บ้าน และส่งเสริมอาชีพให้ชาวบ้าน เริ่มต้นจากการคัดเลือกตัวแทนชาวบ้าน ส่งไปศึกษาดูงานที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพาน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.สกลนคร เพื่อให้เรียนรู้และเข้าใจศาสตร์พระราชา ก่อนกลับมาสื่อสารกับชาวหมู่บ้านในฐานะ นักประสานงานชุมชนเพื่อขยายผลโครงการชลประทาน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ

“…เราเชื่อเรื่องการต้องมีต้นแบบหรือผู้นำทำเป็นแบบอย่าง จึงให้มีนักประสานงานชุมชน เพื่อทำให้ชาวบ้านเห็นเป็นแบบอย่างที่ผ่านมา จนขณะนี้ชาวบ้านหลายคนแสดงความสนใจและอยากทำ…” นายราเชนกล่าว

น้อมนำศาสตร์พระราชาสู่ความยั่งยืน

หนึ่งในต้นแบบสำคัญคือ แปลงเกษตรตัวอย่างของ นางสาวดวงตะวัน ใยดวง นักประสานงานชุมชน หลังได้รับเมล็ดพันธุ์พืชผักสวนครัวจากศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพาน ดวงตะวันได้ทดลองปลูกบริเวณหน้าบ้าน ปรากฏว่าได้ผลงอกงามดี อย่างบวบงูปลูกได้ยาวถึง ๗๐ เซนติเมตร ด้วยทำเลอยู่กลางหมู่บ้านใครผ่านไปมาเห็น  เริ่มเข้ามาสอบถาม แสดงความสนใจว่าอยากปลูกบ้าง จึงตัดสินใจใช้บริเวณหน้าบ้านตั้งเป็น ศูนย์เรียนรู้สวนสายชลเกษตรผสมผสาน

นางสาวดวงตะวันกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ทำงานในโรงงานที่กรุงเทพฯ ในปี ๒๕๖๐ ได้เดินทางกลับมาเยี่ยมบ้านชั่วคราว ระหว่างนั้นได้สมัครรับคัดเลือกเป็นนักประสานงานชุมชน มีโอกาสได้ไปศึกษาดูงานศาสตร์พระราชาในหลายที่ จึงเริ่มรู้จักหลักการทรงงานของในหลวง รัชกาลที่ ๙ รู้จักเศรษฐกิจพอเพียงที่ทรงสอนให้ราษฎรสามารถอยู่ด้วยตนเอง ตลอดจนการทำการเกษตรผสมผสาน เกษตรอินทรีย์ ปศุสัตว์ต่าง ๆ

“…ได้มาคุยกับสามีว่าจะไม่กลับไปทำงานโรงงานอีกแล้ว เพราะที่ผ่านมาทำไปก็ไม่เหลือเงินจากค่ากินค่าอยู่ แต่ที่นี่มีบ้านเป็นของเราเอง แม้น้ำอาจหายากสักนิดแต่ก็พอหาได้ มีวัว สามารถปลูกพืชผักสวนครัว เพื่อบริโภคในครัวเรือน และรับจ้างปลูกมันสำปะหลังไปด้วย แม้รายได้อาจน้อยแต่สามารถอยู่แบบสุขสบาย โดยไม่มีหนี้สินได้…” นางสาวดวงตะวันกล่าว

หลังจากทดลองเพาะปลูกพืชผักสวนครัวได้ผลงอกงาม ดวงตะวันได้แบ่งเมล็ดพันธุ์พืชให้ชาวบ้านที่สนใจกว่า ๔๐ ครัวเรือนไปทดลองเพาะปลูกในแปลงเกษตรรวม จะเริ่มทำการเพาะปลูกจริงจังในช่วงฤดูฝนนี้

 

 

นางสาวดวงตะวันกล่าวด้วยสีหน้าซาบซึ้งว่า ดิฉันและชาวบ้านต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับโครงการไว้เป็นโครงการในพระราชดำริ พวกเรารู้สึกดีใจจนพูดไม่ออก เพราะตรงนี้เหมือนเป็นจุดเริ่มต้นที่ภาคส่วนต่าง ๆ ได้มองเห็น และเข้ามาพัฒนา ส่วนดิฉันเกิดและโตที่นี่ จะขอยืนหยัดทำหน้าที่นักประสานงานชุมชนต่อไป เพื่อร่วมพัฒนาหมู่บ้านให้เจริญอย่างยั่งยืนตามรอยศาสตร์พระราชา

 

แหล่งที่มา https://www.matichon.co.th/court-news/news_1411741