กองทัพเรือที่ประชาชนเชื่อมั่นและภาคภูมิใจ                                       กองทัพเรือที่ประชาชนเชื่อมั่นและภาคภูมิใจ                                         กองทัพเรือที่ประชาชนเชื่อมั่นและภาคภูมิใจ

"เงินถุงแดง" คืออะไร

Release Date : 28-10-2020 00:00:00
"เงินถุงแดง" คืออะไร

      เงินถุงแดง เป็นเงินที่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวเมื่อครั้งที่ยังเป็นพระเจ้าลูกยาเธอพระองค์เจ้าทับ ซึ่งเป็นพระเจ้าลูกยาเธอในรัชกาลที่ ๒ ทรงทำหน้าที่กำกับราชการกรมท่า กรมท่านี้เป็นกรมที่รับผิดชอบเกี่ยวกับงานการต่างประเทศ การพาณิชย์ แล้วก็การพระคลัง ทรงบริหารงานราชการกรมท่าเข้มแข็งมากแล้วก็นำรายได้เข้าสู่แผ่นดินได้จำนวนมากอย่างเต็มเม็ด  เต็มหน่วยเงินแผ่นดินสมัยก่อนเค้าเรียกว่าเงินในท้องพระคลังหลวง          

     วิธีการหารายได้ของพระองค์ท่าน คือ จัดแต่งเรือสำเภานำสินค้าไปค้าขายกับต่างประเทศ อย่างเช่นจีน อินเดียและประเทศทางก็จะมีเปอร์เซียเป็นนักค้าตัวยง มีทั้งสำเภาหลวงแล้วก็สำเภาของส่วนพระองค์ด้วย ทรงนำสินค้าของส่วนพระองค์ใส่เรือสำเภา ของส่วนพระองค์ค้าขายกับต่างประเทศด้วย เงินที่ได้มา ในส่วนของสำเภาหลวงก็เข้าคลังหลวง ในส่วนของ สำเภาส่วนพระองค์ ได้ทรงแบ่ง ส่วนหนึ่งก็คือถวายรัชกาลที่ ๒ เพื่อนำเข้าพระคลังหลวงด้วย อีกส่วนหนึ่งทรงเก็บไว้เงินส่วนพระองค์ที่ทรงเก็บไว้ในถุงแดง ข้างที่พระบรรทม พอเงินเต็มถุง พอเต็มถุงก็จะทรงนำเข้าพระคลังหลวงไว้เป็นสมบัติแผ่นดินทั้งหมด และทรงสะสมใหม่ เพื่อพระราชทานเก็บเข้าพระคลังหลวงเป็นสมบัติแผ่นดินอีก ทั้ง ๆ ที่เป็นพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ แต่เนื่องจากทรงมีพระราชดำริว่า เมื่อพระองค์มีพระราชทรัพย์ในขณะที่เป็นพระเจ้าแผ่นดิน คือที่ที่ทรงค้าขาย ทั้งเมื่อยังเป็นพระเจ้าลูกยาเธอ และเมื่อครองราชย์แล้วด้วยเหมือนกัน คือจากสำเภาส่วนพระองค์ด้วยเหมือนกัน แต่เมื่อทรงมีพระราชดำริว่า เมื่อมีพระราชทรัพย์ในขณะที่เป็นพระเจ้าแผ่นดิน พระราชทรัพย์ทั้งหมดจึงควรจะเป็นของแผ่นดินหาใช่พระราชทรัพย์ที่จะตกทอดถึงพระราชโอรส ธิดาของพระองค์ เพราะเงินถุงแดงเก็บข้างที่พระบรรทม ซึ่งต่อมาก็เป็นที่มาของคำว่าพระคลังข้างที่ ใส่ในถุงแดง ถุงผ้าสีแดง แล้วก็สมัยโบราณเวลาเขาเก็บเงินเขาจะห่อมิดชิดแล้วตีตรา คือ เก็บในถุงแดงแล้วก็จะมีกำปั่น คือเป็นวิธีการเก็บเงินในสมัยโบราณเขาจะใส่กำปั่น จะวางไว้ข้างพระที่ หรือว่า ตอบไม่ได้แน่นอนว่าวางไว้ข้างพระแท่นบรรทมหรือว่ามีห้องเก็บ แต่เขาก็เรียกว่าเงินข้างที่บรรทมหรือพระคลังข้างที่

        พวกเงินพวกนี้จริง ๆ คือ เงินส่วนพระองค์ ที่ว่าท่านเก็บแล้วท่านจะพระราชทานใครก็ได้หรืออะไรก็ได้ท่านมีสิทธิใช้ แต่ว่าพระองค์ท่านก็พยายามเก็บหอมรอมริบไว้เพื่อที่จะให้เป็นสมบัติของแผ่นดิน ไว้ใช้ในยามยาก คือตามที่มีบันทึกไว้ปรากฏว่ารัชกาลที่ก่อนที่จะสวรรคตท่านมีกระแสรับสั่งไว้ว่า เงินในท้องพระคลังทั้งข้างหน้าและข้างใน ไม่ได้บอกว่าในไหน มีอยู่รวม ๆ กันแล้วประมาณ ๔๐๐๐๐ ชั่ง แต่ขอไว้สัก ๑๐๐๐๐ ชั่งเถิด คือให้บอกกับผู้ที่จะครองราชย์ต่อจากพระองค์ท่าน ซึ่งพระองค์ท่านไม่ได้ระบุว่าใครจะเป็นผู้ครองราชย์ต่อจากพระองค์ท่าน แล้วก็ไม่ได้บอกว่าจะให้กับพระราชโอรสองค์ไหน เพียงแต่ว่าขอให้ผู้ที่จะครองราชย์ต่อจากพระองค์ท่าน คือเอาเงินซัก๑๐๐๐๐ ชั่ง จากจำนวน ๔๐๐๐๐ ชั่ง ไปช่วยบำรุงวัดวาอารามที่เสื่อมโทรม เป็นกุศลผลบุญ แล้วก็ส่วนที่เหลือให้เอาไว้ใช้ในการแผ่นดินต่อไป คือไม่ได้พระราชทานให้แก่โอรสธิดาองค์ใด แต่ให้เป็นของสำหรับแผ่นดิน และส่วนหนึ่งก็คือบำรุงวัด
       สมัยก่อนมีเหรียญ คือเหรียญแม็กซิกัน ซึ่งเป็นเหรียญทองรูปนกอินทรีย์ เป็นเหรียญที่เขานิยมใช้แลกเปลี่ยนเงินตรา ในการซื้อขายสินค้าต่างประเทศแล้วก็ อาจจะมีเหรียญของจีนบ้าง เหรียญอังกฤษบ้าง อะไรพวกนั้น แต่ว่าโดยมากแล้วที่กล่าวถึงก็จะเป็นเงินเหรียญแม็กซิกัน หรือที่คนไทยเขาเรียกว่าเหรียญนกคือถ้าเทียบกัน เงินไทยสมัยก่อนเขานับเป็นชั่ง ๑ ชั่งเท่ากับ ๔๘ เหรียญนก ๑ ชั่งเท่ากับ ๘๐ บาท ต้องคูณกัน ๑ ชั่งเท่ากับ ๘๐ บาท ก็คูณไปว่าถ้าเป็น ๑๐๐๐๐ ชั่ง จะเท่าไหร่ แล้ว๔๐๐๐๐ ชั่งจะเท่าไหร่สมัยนั้น  ก็คงเป็นจำนวนมหาศาล ๑๐๐๐๐ ชั่งนี้ก็ไว้บำรุงวัดล่ะ เหลืออีก ๓๐๐๐๐ ชั่งซึ่งก็ไม่ได้บอกว่า๓๐๐๐๐ ชั่ง คืออยู่ในถุงแดงทั้งหมด เพราะว่าอย่าลืมว่าพระองค์ท่านนั้นเวลาค้าสำเภาส่วนพระองค์ ได้มาส่วนหนึ่งท่านถวายให้เป็นเงินแผ่นดิน เก็บไว้ในท้องพระคลังหลวง อีกส่วนหนึ่งก็เก็บไว้ในถุงแดง

      วัตถุประสงค์ของการใช้เงินถุงแดงสำรองไว้ใช้ยามประเทศชาติวิกฤต เพราะว่าก่อนที่จะสวรรคตนั้นพระองค์ท่านมีรับสั่งว่า คือห่วงประเทศท่านบอกว่าการศึกสงครามพม่า ญวน เขมรคงไม่มีแล้ว จะมีแต่เรื่องของฝรั่ง ซึ่งตอนนั้นมีอังกฤษ มีฮอลันดาเข้ามาเยอะ แล้วก็ท่านก็รับสั่งบอกว่า ถ้าอะไรส่วนที่ดีก็จงนำมาใช้จำไว้ ส่วนที่ไม่ดีก็อย่า ก็คือให้ระวังไว้ แสดงว่า ทรงมีความละเอียดรอบคอบแล้วก็คิดไปถึงอนาคต คิดไกล และท่านก็สั่งไว้เงินของท่านที่เหลือ ก็คือให้ไว้ใช้ในยามแผ่นดินวิกฤต ยามยาก ยามจำเป็น สถานการณ์ที่นำเงินถุงแดงออก มาใช้เคยก็มี คือ เมื่อรัชกาลที่ ๓ สวรรคตไปรัชกาลที่ ๔ ขึ้นครองราชย์ท่านไม่ได้ใช้ท่านเก็บไว้ พอถึงรัชกาลที่ ๕ บังเอิญช่วงนั้นมันเกิดวิกฤตการณ์ที่ที่คนไทยเรารู้จักกันต่อมาในประวัติศาสตร์ก็คือวิกฤตการณ์ รศ. ๑๑๒ รศ. ๑๑๒ นี่ก็ตรงกับ พ.ศ. ๒๔๓๖ ในสมัยรัชกาลที่ ๕ ฝรั่งเศสอ้างสิทธิ์เหนือดินแดนฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขง ซึ่งมันเป็นดินแดนในอาณัติของสยาม แต่ปัจจุบันนี้ก็ถือว่าอยู่ในเขตของประเทศลาว แล้วก็มีอาณาเขตติดต่อกับเวียดนามและภาคอีสานตอนบน เมืองสำคัญในดินแดนนั้น ก็คือเมืองคำม่วน ช่วงนั้นเกิดเหตุการณ์คือฝรั่งเศสบุกรุก บุกรุกเข้ามาโดยอ้างสิทธิ์เป็นเจ้าของลาวและดินแดนส่วนนี้ ต้องเป็นของฝรั่งเศสด้วย ซึ่งตอนนั้นสยามมีข้าหลวงสยามประจำเมืองคำม่วน คือเจ้าเมืองคำม่วน เป็นข้าหลวงของสยามคือ พระยอดเมืองขวาง

      พระยอดเมืองขวางท่านเป็นข้าหลวงสยาม ประจำเมืองคำม่วน ซึ่งรัชกาลที่ ๕ ส่งไปปกครอง พระยอดเมืองขวาง ถูกฝรั่งเศสบังคับให้ถอนตัวออกมา ตอนนั้นเกิดการรบกัน มีทหารฝรั่งเศสตายด้วย พระยอดเมืองขวางก็เลยถูกจับขึ้นศาล แต่ตอนนั้นตอนแรกมีผู้พิพากษาสยาม ตัดสินให้พระยอดเมืองขวางพ้นข้อกล่าวหา แต่ปรากฏว่าฝรั่งเศสไม่พอใจ ส่งเรือรบบุกเข้ามาทอดสมอหน้าสถานทูตฝรั่งเศสในพระนครแล้วยื่นคำขาด บอกว่าให้สยามยกดินแดนฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขง รวมทั้งเกาะต่าง ๆ ให้กับฝรั่งเศส และขอเอาเมืองจันทบุรี ซึ่งเป็นเมืองท่าสำคัญของสยามทางฝั่งตะวันออกเป็นประกันนานถึง ๑๐ ปี นอกจากนี้สยามต้องตั้งศาลผสม เพื่อพิจารณาคดีพระยอดเมืองขวางใหม่

      ซึ่งศาลผสมประกอบด้วยผู้พิพากษาชาวฝรั่งเศส คือฝรั่งเศส ๓ คน คนสยาม ๒ คน ซึ่งในที่สุดตัดสินแล้วฝรั่งเศสก็ชนะอยู่วันยังค่ำ แล้วก็ไทยต้องชดใช้ค่าปรับ ค่าเสียหาย ค่าปรับสินไหมอะไรต่าง ๆ เป็นเงิน ๒ ล้านฟรังก์ นอกจาก ๒ ล้านฟรังก์ นี้แล้ว ต้องจ่ายค่าเสียหายค่าทำขวัญ ให้กับครอบครัวทหารฝรั่งเศสที่ตาย ซึ่งตรงนี้เขาไม่ได้ระบุจำนวน ไม่ทราบจำนวนเงินแน่นอน นอกจากค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เหล่านี้แล้ว ฝรั่งเศสกำหนดว่าต้องจ่ายค่ามัดจำ จ่ายเงินเป็นประกันเป็นเงินเหรียญทั้งหมดอีก ๓ ล้านฟรังก์ คิดเป็นเงินไทย ประมาณเท่าไหร่ ๗ ล้านบาทประมาณนั้น แต่ว่าค่ามัดจำที่ว่า ๓ ล้านฟรังก์ ต้องจ่ายภายใน ๔๘ ชั่วโมง ถ้าไม่จ่ายไม่ตอบภายใน ๔๘ ชั่วโมง ฝรั่งเศสทำยังไง ฝรั่งเศสจะนำเรือรบปิดปากอ่าวไทยทั้งหมด คือตอนนั้นเรือเข้ามาปากแม่น้ำเจ้าพระยาถึงพระนครแล้ว ตั้งปากกระบอกปืนหันสู่พระบรมมหาราชวังแล้ว ถ้าเป็นสถานการณ์ตอนนั้นรัชกาลที่ ๕ จะทำอย่างไร เครียดมากป่วย ทรงพระประชวร

      ทีนี้พอฝรั่งเศสยื่นคำขาดแบบนี้ ประเทศไทยจะทำอย่างไรสยามจะทำอย่างไร เพราะว่าเงินในพระคลังหลวงตอนนั้น คือจำนวนทั้งหมดมากกว่าครึ่งของงบประมาณทั้งสยามแล้ว ก็บังเอิญมีพระบรมวงศ์ท่านหนึ่งคือจำไม่ได้ว่าใคร ได้กราบบังคมทูลราชการ ที่ ๕ ว่า มีเงินมีเงินถุงแดงซึ่งอยู่ใน เป็นเงินข้างพระที่บรรทมของรัชกาลที่ ๓ ซึ่งส่งเก็บไว้และก็พระราชทานให้ไว้ใช้เป็นเงินแผ่นดิน ลองมาเปิด ปรากฏนับเงินถุงแดง คือเปิดนับมาได้แต่ว่าเงินที่เปิดมายังไม่พอ บรรดาเจ้านายขุนนางคหบดีที่มีเงินมีทองทั้งหลาย ก็นำข้าวของเงินทองไปขายแลกเงินเหรียญ รวมกันแล้วมาถวายสมทบทุนแล้วก็ส่งไปเป็นค่าประกันประเทศชาติจึงรอดมา ถือว่าได้  ช่วยในยามวิกฤติ

       ท่านหญิงพูนพิศมัยท่านเล่า ขนเงินเหรียญใส่ถุงขนออกจากพระบรมมหาราชวังไปยังท่าราชวรดิษฐ์ มีการประมาณว่าน้ำหนักเหรียญถึง ๒๓ ตัน ขนทั้งวันทั้งคืน ภายใน ๔๘ ชั่วโมงจนกระทั่งถนนเป็นรอยร่องเลย คือพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อประเทศสยามในยามยาก ถ้าไม่ได้เงินถุงแดงของพระองค์ท่านก็ไม่รู้ว่าเงินที่ได้จากการขายข้าวของจะเพียงพอต่อการชดใช้ไถ่เอกราช กู้แบบกู้ชาติหรือเปล่า คือเรื่องของคุณค่าของเงินถุงแดงที่ได้ประจักษ์ชัดในความเป็นไทยมาจนทุกวันนี้ ประชาชนได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสายพระเนตรอันยาวไกลของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวในเรื่องของเงินถุงแดง

แหล่งที่มา https://www.stou.ac.th/study/sumrit/5-60/page1-5-60.html